สไตล์รูปแบบ์ต่าง
ๆ ของการเล่นกีตาร์
1.
แนวคลาสสิก
ถือเป็นแนวที่เก่าแก่ที่สุดของกีตาร์มัเล่นในหมู่ชนชั้นสูง(หมายถึงสมัยก่อน)มีรูปแบบการเล่นที่สวยงาม
ท่วงทำนองไพเราะมากสามารถเล่นได้ทั้งริทึ่ม การเล่นโซโล
การเล่นประสานได้ในตัวเดียว เพลงคลาสสิกจะถูกแต่งขึ้นอย่างปราณีต
ดังนั้นจึงค่อนข้างจะยากสำหรับผู้ที่คิดจะหัดเอง
เนื่องจากต้องสามารถอ่านและเข้าใจโน็ตดนตรีเป็นอย่างดี
รวมถึงการอ่านจังหวะและสัญลักษณ์ทางดนตรีต่าง ๆ
และที่สำคัญราคาในการเรียนค่อนข้างสูง ทำให้คนทั่ว ๆ ไปอาจไม่สามารถจะไปเรียนได้
ยังมีอีกสไตล์ที่ผมขอกล่าวรวมอยู่ในสไตล์คลาสสิก คือ
สไตล์ฟลาเมนโก้เพราะค่อนข้างใกล้เคียงกันต่างกันที่สไตล์การเล่น
ซึ่งเป็นแบบดั้งเดิมที่มีกำเนิดจากในสเปนจะมีรูปแบบการเล่นสำเนียงเฉพาะตัวเช่นการดีดแบบ
rasgueado (จะอธิบายในส่วนของการเล่นเทคนิคอีกที)
ซึ่งค่อนข้างโดดเด่นมากสำหรับฟลาเมนโก้สไตล์ ซึ่งสไตล์นี้มีจังหวะค่อนข้างจะสนุกสนาน
และใช้ประกอบกับการเต้นรำอย่างที่เราเคยเห็นใน TV เกี่ยวกับสเปน
ตัวอย่างเช่น paco de lucia เป็นต้น
2. แนวโฟล์ค คันทรี
เกิดจากการเผยแพร่การเล่นกีตาร์ไปสู่คนผิวดำที่เป็นทาส และพัฒนารูปแบบไปเรื่อย ๆ
ในหมู่ชาวบ้านสามัญชนทั่วไป ซึ่งมักจะเป็นกสิกร หรือ ทำฟาร์ม
และเล่นในยามพักผ่อนจากการทำงานเพลงจึงมีลักษณะที่เรียบง่ายสบาย ๆ
จังหวะสนุกสนานเล่าถึงวิถีชีวิตชาวบ้านอาจจะแบ่งได้เป็น
- บลูกล๊าสสไตล์ เป็นดนตรีพื้นบ้านมักมีการเล่นร่วมกับ แบนโจ
ไวโอลิน ใช้กีตาร์ตัวนึงเป็นริทึ่ม อีกตัวใช้โซโล จังหวะสนุกสนาน เป็นเพลงบรรเลง
หรือมีคนร้องด้วย
- ฟิงเกอร์สไตล์
คือการเกาหรือเล่นกีตาร์ด้วยนิ้วนั่นเองอาจจะเล่นตัวเดียวหรือ 2 ตัวประสานกัน มีความละเอียดในการเล่นมากพอสมควรเล่นค่อนข้างยาก ต่างกับบลูกล๊าสที่มักใช้ปิคมากกว่าเช่น
chet atkins ,doc watson เป็นต้น
- โฟล์คสไตล์
เป็นดนตรีพื้นบ้านที่มีการเล่นที่อาจจะเป็นการเกากีตาร์ การใช้ปิคดีด
การเล่นประสานกันตั้งแต่ 2ตัวขึ้นไป
มีการร้องประสานเสียงกันส่วนมากจะกล่าวถึงชีวิตความเป็นอยู่ประจำวันทั่วไป เช่น peter
paul & mary
3. บลูส์สไตล์ กำเนิดจากชนผิวดำที่เป็นทาสได้รับเอาเครื่องดนตรีชนิดนี้มากและพัฒนาเข้ากับดนตรีแบบของเขา
ซึ่งส่วนใหญ่ในยุคแรกจะเป็นเพลงที่เศร้าเนื่องจากบรรยายถึงความเหนื่อยยากที่เป็นทาส
และดนตรีบลูส์นี้เองเป็นพื้นฐานที่สำคัญของดนตรีอีกหลายประเภทเหลือเกินตั้งแต่
แจ๊ส โฟล์ค รวมไปถึงร็อคอีกด้วย สามารถแบ่งคร่าว ๆ เป็น
- อาคูสติกบลูส์
คือใช้กีตาร์โปร่งเล่นนั่นเองซึ่งในยุคแรกก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ
จะมีการผสมผสานระหว่างการใช้ปิค และนิ้วร่วมกันในการดีด นอกจากนี้อาจมีการใช้สไลด์เล่นอีกด้วย
เช่นในชุด unplug ของ eric clapton
- อีเล็คทริกบลูส์ เป็นยุคหลังที่มีกีตาร์ไฟฟ้าแล้ว
จึงมีการนำดนตรีบลูส์มาเล่นกับกีตาร์ไฟฟ้ามีการโซโลที่ไพเราะและหนักแน่น เช่นแบบ BB.
King หรือ Robert cray
4. แจ๊ส
เป็นอีกสไตล์ที่พัฒนามาจากบลูส์ซึ่งรายละเอียดในการเล่นจะยากขึ้นไปกว่าดนตรีบลูส์
และมีทั้งแบบอาคูสติกและิเล็คทริกเช่นกัน เช่น Larry Carlton เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสไตล์อื่นที่มีลักษณะของแจ๊สอยู่ได้แก่
- Bossanova ซึ่งที่ดังมากได้แก่ Antonio Calos Jobim กับเพลง Girl from ipanema เป็นต้น
- Samba หรือ สไตล์ประจำของบราซิล
ซึงมีโครงสร้างคล้ายกับดนตรีแจ๊สเช่นกัน
5. ป๊อปสไตล์
ก็คือสไตล์ที่เล่นกับเพลงป๊อปหรือเพลงทั่ว ๆ ไป
6. ร็อคสไตล์ มีการพัฒนามาจากบลูส์เช่นกันมีความหนักแน่นในจังหวะและท่วงทำนอง
และมีการเล่นที่น่าสนใจทั้งการโซโล ที่มีลูกเล่นเทคนิคมากมาย
การปรับแต่งเสียงของกีตาร์ การใช้เอฟเฟ็คต่าง ๆ
จึงเป็นที่นิยมและคลั่งไคล้ของกลุ่มวัยรุ่น อยากเก่งเหมือนนักกีตาร์ร็อคดัง ๆ
ซึ่งร็อคอาจแบ่งไดเป็น
- บลูส์ร็อค เป็นการผสมระหว่างเพลงบลูส์กับร็อคเช่นแบบ Gary
Moore หรือ Stevie ray Vaughan เป็นต้น
- โฟล์คร็อค มีการผสมผสานกันของเพลงโฟล์คกับร็อค เช่น Eagles
เป็นต้น
- นีโอคลาสสิก เป็นการนำเอารูปแบบของดนตรีคลาสสิกมาผสมผสานกับดนตรีร็อค
ซึ่งตอนนี้เป็นที่สนใจอย่างมาก ผู้ที่บุกเบิกทางนี้ได้แก่ Randy Rhoad ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วแต่ปัจจุบันคุณจะรู้จัก นีโอคลาสสิก กับ Yngwie
Malmsteen หรือ Vinnie Moore เป็นต้น
- เฮฟวี่เมทัล พัฒนาไปจากดนตรีร็อคมีความหนักหน่วงขึ้นเช่น Metallica
, Megadeath เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น