การปฏิบัติกีตาร์เบื้องต้น
ความรู้เบื้องต้นสำหรับเล่นกีตาร์
ที่มาหรือหลักการของเสียงกีตาร์
พวกเราคงจะเคยเล่นดีดหนังยางกันมาบ้าง เพื่อน
ๆ เคยสังเกตไหมเวลาเราดึงหนังยางให้ยืดออก
แล้วถ้าเอามือไปดีดหนังยางจะสั่นและเกิดเสียง(แต่เบามาก)
หรือแม้แต่เส้นด้ายหรือเชือกที่ถูกยึดปลายดึงจนตึงเมื่อถูกดีดก็จะสามารถเกิดเสียงได้เช่นกัน
ทั้งหมดนั้นอาศัยหลักการของการเปลี่ยนแปลงพลังงานตามหลักวิทยาศาสตร์นั่นเอง
คือเมื่อวัตถุเกิดการสั่นด้วยความถี่ค่าหนึ่ง
ความถี่นั้นก็จะกลายเป็นคลื่นเสียงได้ ที่กล่าวมาเป็นหลักคร่าว ๆ แค่พอรู้
สำหรับกีตาร์ก็คือการนำสายลวดซึ่งมีขนาดแตกต่างกันมาขึงยึดหัวท้ายไว้
ด้วยความตึงต่าง ๆ กัน ซึ่งความตึง, ขนาดที่ต่างกัน
รวมถึงความสั้น-ยาวของสายกีต้าร์นั่นเองจะมีผลต่อระดับเสียงที่เกิดขึ้นได้แก่
- สายที่ตึงกว่าจะให้เสียงที่มีระดับสูงกว่าสายที่หย่อนกว่า
- สายที่มีขนาดใหญ่กว่าจะให้เสียงที่มีระดับต่ำหรือทุ้มกว่าสายที่มีขนาดเล็กกว่า
- สายที่สั้นกว่าจะมีระดับเสียงที่สูงกว่าสายที่ยาวกว่า
การจัดทางทางการเล่นกีตาร์แบบต่าง
ๆ
คงจะไม่มีข้อกำหนดตายตัวอะไรในเรื่องของการจัดท่าทางการเล่นกีตารว่าต้องเล่นท่านั้นท่านี้
ซึ่งคุณอาจจะเห็นมาแล้วทั้งนั่ง ยืน วิ่ง กระโดด จนกระทั่งนอนเล่น (ท่าประหลาด ๆ
มักพบกับดนตรีร็อคซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ถือว่าประหลาดแต่ว่ามันส์ต่างหาก)
ดังนั้นผมคิดว่าขึ้นอยู่กับเวลา สถานที่ ความเหมาะสมและอารมณ์ต่างหาก
แต่ผมจะแบ่งให้ทราบเพียงคร่าว ๆ เพื่อประดับความรู้เท่านั้นส่วนจะชอบแบบไหนแล้วแต่ถนัด
การนั่งเล่น
ส่วนใหญ่จะเป็นกีตาร์คลาสสิก ฟลาเมนโก้ แจ๊ส หรือ
ดนตรีประเภทอาคูสติกที่มีรายละเอียดในการเล่นมากจึงไม่สะดวกในการยืนเล่นโดยเฉพาะการเล่นกีตาร์คลาสสิกหรือฟลาเมนโก้จะมีท่าเฉพาะที่เป็นรูปแบบในการเล่นต่างหาก
ซึ่งอาจจะวางกีตาร์บนหน้าขาขวาหรือซ้ายเช่นรูปแรกเป็นแบบคลาสสิก รูปที่ 2และ 4 เป็นแบบฟลาเมนโก้ เป็นต้น
การใช้งานมือซ้าย
ในที่นี้จะหมายถึงผู้ที่ถนัดขวานะถ้าถนัดซ้ายก็จะตรงกันข้าม
สำหรับหน้าที่หลักของมือซ้ายก็คือการจับคอร์ด
การให้ระดับเสียงของโน๊ตดนตรี(ด้วยการกดนิ้วไปแต่ละเฟร็ต) ซึ่งเราจะใช้นิ้วทั้ง 5 เพื่อช่วยในการเล่นกีตาร์ เช่นการจับคอร์ด
ลี๊ดเป็นต้น ...ถึงตรงนี้บางคนอาจสงสัยว่า เอ...ใช้นิ้วโป้งด้วยหรือ
ใช้ยังไงล่ะ ...ก็ขอตอบว่าใช้ในบางกรณี โดยเฉพาะเพลงในแบบ ฟิงเกอร์
สไตล์(สไตล์นิ้วหรือเกานั่นแหล่ะครับ) หรือการจับคอร์ดบาร์(bar chord) หรือคอร์ดทาบ นิ้วโป้งมีประโยชน์มาก ซึ่งผมจะกล่าวรายละเอียดในขั้นต่อไป
นอกจากใช้จับคอร์ด ใช้ลี๊ดแล้ว ยังรวมถึงการเล่นเทคนิคต่าง ๆ เช่นการดันสาย สไลด์ hammer
on pull off หรือทำเสียงบอด(mute) เป็นต้น
การดูแลรักษามือซ้ายนั้นไม่ควรจะไว้เล็บให้ยาวเกินนิ้วออกมาเพราะจะเป็นอุปสรรคกับการกดนิ้วบนคอกีตาร์แน่นอน
และยังจะทำให้เจ็บนิ้วอีกด้วย
และพยายามอย่าไปกังวลกับหนังที่ปลายนิ้วที่มันจะแข็งขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อคุณเล่นกีตาร์บ่อย ๆ เดี่ยวมันก็ลอกไปเอง
การใช้งานมือขวา
สำหรับมือขวาในการเล่นกีตาร์จะมีหน้าที่ทำให้เกิดเสียงไม่ว่าด้วยการดีดด้วยนิ้วหรือการเกา
การดีดด้วยปิคล้วนแต่ควบคุมด้วยมือขวาทั้งนั้น
โดยหน้าที่ของแต่ละนิ้วนั้นสรุปคร่าว ๆ ได้แก่ ถ้าจับปิคดีดจะจับด้วยนิ้วชี้และนิ้วโป้ง
แต่ถ้าคุณเล่นเกาแล้ว นิ้วโป้งจะมีหน้าที่ควบคุมเสียงเบส(หมายถึง 3 เส้นบน)เป็นส่วนมาก และนิ้วชี้ กลาง
และนิ้วนาง จะควบคุม 3 สาย ล่างเป็นหลัก
ส่วนนิ้วก้อยนั้นถึงแม้ไม่มีส่วนในการดีด
แต่บางคนก็มักใช้นิ้วก้อยยันกับตัวกีตาร์เวลาเกา
นอกจากนี้ยังใช้ประโยชน์ในการเล่นกีตาร์ลี๊ดเช่นการใช้บังคับคันโยก การปรับปุ่ม tone
หรือ volume เวลาลี๊ดกีตาร์ไฟฟ้า(เทคนิคดังกล่าวจะพูดในภายหลังนะครับ)
นอกจากส่วนของนิ้วมือแล้ว สันมือก็ใช้ในการทำเสียงบอด(mute) ได้เช่นกันซึ่งจะได้กล่าวในเรื่องของการใช้เทคนิคมือขวาต่อไป
การดูแลโดยทั่วไปสำหรับมือขวานะคือไม่ควรไว้เล็บยาวจนเกินไปโดยเฉพาะ
นิ้วชี้ ,กลาง
และนิ้วนางเพราะจะทำให้ดีดสายกีตาร์หรือแม้แต่จับปิคได้ไม่สะดวก
แต่อาจไว้เล็บพอประมาณเพื่อใช้เกากีตาร์
สำหรับผู้ที่ถนัดซ้ายนั้นการเล่นก็จะกลับกับคนถนัดขวาคือ
มือซ้ายจะใช้ดีด แต่มือขวาจะมาจับคอร์ดแทน
ซึ่งกีตาร์สำหรับคนถนัดซ้ายนั้นก็มีขายนะ
แต่ถ้ามันหายากนักผมว่าก็ใช้กีตาร์ของแบบถนัดขวา(แต่พยายามอย่าเลือกแบบคอเว้า
หรือมีปิคการ์ดด้านล่างนะครับ) แล้วก็ใส่สายใหม่โดยกลับสายจากสายบนสุด ไปใส่ล่างสุดแทนก็ได้
แต่ก็มีนะครับนักกีตาร์มีซ้ายที่ใช้กีตาร์แบบเล่นมือขวามากลับพลิกแล้วเล่นเลยไม่ต้องเปลี่ยนสงเปลี่ยนสายให้เสียเวลา
ดังนั้นสาย 1 จะมาอยู่บน สาย 6 จะไปอยู่ล่าง เช่น นักกีตาร์โฟล์คหญิงที่ชื่อ Elizabeth Cotten แต่ผมก็ไม่รู้นะครับว่าเค้าเล่นยังไงเคยฟังแต่เพลงเค้าเก่งจริง ๆ
ครับและก็ยังมีอีกเป็นนักกีตาร์บลูส์แต่ผมลืมชื่อไปแล้ว
ดังนั้นคนที่ถนัดซ้ายไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรผมว่าเท่ซะอีก
และนักกีตาร์มือซ้ายที่โด่งดังเช่น jimi hendrix สุดยอดคนหนึ่งของวงการกีตาร์และ
kurt cobain แห่ง nirvana ผู้ล่วงลับ
เป็นต้น
การดีดกีต้าร์
คราวนี้ลองทดสอบ ลองจับปิคให้มั่นคง ลองดีดกีตาร์จากสาย 6 ไปหาสาย 1 (สายใหญ่->เล็ก) จากนั้นดีดย้อนขึ้นจากสาย 1 ไปสาย 6 สังเกตการดีดให้จังหวะการดีดแต่ละเส้นนั้นให้เท่ากัน
คือเสียงเรียบสม่ำเสมอ ในขั้นแรกนี้ลองฝึกให้จังหวะการดีดของคุณสม่ำเสมอก่อนทั้งขึ้และลง ใจเย็น
ๆ นะอย่าเพิ่งใจร้อน เราเริ่มจากแบบเรียน ก.ไก่ ข.ไข่
ก่อนต่อไปเราถึงจะอ่านหนังสือออกจริงมั๊ย!!!! ลองมาดูท่าทางการดีดที่ถูกต้อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น